วิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา

สไลด์ แง่คิด เพื่อชีวิตงดงาม

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เทคนิคการสอนแบบ CIPPA
การเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง:โมเดลซิปปา
                       ในปัจจุบันแนวการจัดการเรียนการสอนโดยยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลางได้เข้ามามีบทบาทในการจัดการศึกษาทั้งในประเทศและในต่างประเทศ แนวความคิดในการจัดการศึกษานี้ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้โดยการกระทำ(Learning by Doing)ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติในกิจกรรมที่หลากหลาย  มีส่วนร่วมและเรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่ม เพื่อส่งเสริมความรู้ ความสามารถ และศักยภาพของผู้เรียน
โมเดลซิปปา(CIPPA MODEL) เป็นการเรียนการสอนที่เป็นแนวคิดหลักที่เป็นพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอนโดยยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งการจัดการเรียนการสอนโดยยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลางซิปปานี้พัฒนาขึ้นโดย  รองศาสตราจารย์ ดร.ทิศนา  แขมมณี อาจารย์ประจำภาควิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นนักการศึกษาผู้มีประสบการณ์สอนและการนิเทศการสอน ได้กล่าวว่า  แนวคิดในการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางในการศึกษาไทยมีมานานแล้ว แต่ยังไม่เกิดผลในการปฏิบัติที่เป็นน่าพอใจ ครูจำนวนมาก ขาดความรู้ความเข้าใจ และขาดแนวทางที่ชัดเจนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้วยเหตุผลนี้  ทิศนา  แขมมณี จึงได้เสนอแนวคิดและแนวทางในการนำไปปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ความสำคัญกับการให้ผู้เรียนเป็นจุดสนใจ (Center of attention) หรือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ กล่าวคือ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หากผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดขึ้นมาก ผู้เรียนก็จะเป็นผู้มีบทบาทในการเรียนรู้มาก และควรจะเกิดการเรียนรู้ที่ดีขึ้นตามมา แนวคิดการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพให้ผู้เรียนมีส่วนเรียนร่วมอย่างผูกพัน ทิศนา  แขมมณี (2543) ได้เสนอไว้ดังนี้
กิจกรรมการเรียนรู้ที่ดีควรช่วยให้ผู้เรียน ได้มีส่วนร่วมทางด้านร่างกาย คือ กิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อช่วยให้ประสาทรับรู้ของผู้เรียนตื่นตัว พร้อมที่จะรับข้อมูลสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้น ตามความเหมาะสมกับวัยและระดับความสนใจของผู้เรียน

นวัตกรรมการเรียนการสอน

นวัตกรรมการเรียนการสอน

                   ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ   และเพื่อให้เกิดประสิทธิผลในบั้นปลายนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ครู อาจารย์   จะต้องพยายามค้นคว้าวิธีการใหม่ ๆ ที่ครู อาจารย์คิดค้นขึ้นในรูปแบบต่าง ๆ  นั้น  คือ นวัตกรรมทางการศึกษานั้นเอง

ความหมาย

             คำจำกัดความของคำว่า   นวัตกรรมทางการศึกษา   จึงหมายถึงสิ่งประดิษฐ์หรือวิธีการใหม่   หรือปรับปรุงของเก่าให้เหมาะสม    โดยมีการทดลองหรือพัฒนาจนเป็นที่น่าเชื่อถือได้ว่าจะมีผลดีในทางปฏิบัติสามารถนำไปใช้ในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ   และถ้าส่งผลงานในลักษณะนี้ต้องมีเอกสารประกอบด้วย
สอน หมายถึง

นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ : ตู้อบแห้งเครื่องมือแพทย์

นวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ รักษาดุลยภาพผิวพรรณดูอ่อนเยาว์

ในฐานะเจ้าของรางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด 2010 ประเภทสถานบริการความงามและผลิตภัณฑ์คุณภาพ จากกระทรวงสาธารณสุข บริษัทแพนราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดสัมมนาภายใต้แนวคิด "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก การสื่อสารของเซลล์ที่ไม่สมบูรณ์ หรือบกพร่อง จะส่งผลให้เกิดอาการและปัญหาต่างๆ ซึ่งแท้จริงแล้วมนุษย์เราไม่ได้ป่วย แต่เป็นเซลล์ต่างหากที่ป่วย" ณ รร.คอนราด เมื่อเร็วๆนี้

ภายในงาน ผศ.นพ. ถนอม บรรณประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้ถึงความเจริญด้านวิทยาการการรักษา โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารของเซลล์ว่า เกิดขึ้นมานานแล้วในต่างประเทศตามแนวคิด สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก มีการติดต่อประสานงานภายใต้การควบคุมของยีน





ต่อเมื่อเซลล์เกิดภาวะไม่ปกติ หรือมีปัจจัยต่างๆมาทำให้การทำงานบกพร่อง ไม่บรรลุประสิทธิผล ทำให้เกิดปัญหาและโรคอื่นๆตามมา ซึ่งอนุมานได้ว่า แท้จริงแล้วเซลล์ป่วย เราไม่ได้ป่วย แนวทางการรักษาในอนาคตอันใกล้จึงเปลี่ยนไป เป็นการมุ่งรักษาลงลึกไปถึงระดับการทำงานของเซลล์ ซึ่งมีข้อดีคือ แก้ที่ต้นเหตุ ไม่มีอันตราย ไม่ส่งผลกระทบหรือรบกวนต่อสรีรวิทยา และรักษาแบบตรงจุด

ด้าน ศาสตราภิชาน ดร.นพ.พิชิต สุวรรณประกร ประธานกรรมการ บมจ.แพนราชเทวี กรุ๊ป กล่าวถึงการนำวิทยาการการสื่อสารของเซลล์มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมการรักษาว่า เซลล์ในร่างกายก็เปรียบเสมือนตัวรับสัญญาณ ซึ่งในภาวะปัจจุบันมีสัญญาณที่ดีและไม่ดีทั้งจากภายนอกและภายใน ที่ส่งผลกระทบและเป็นตัวการทำให้เกิดโรคและอาการที่เกี่ยวกับผิวพรรณต่างๆ สัญญาณที่ไม่ดีจากภายนอก มีอาทิแสงแดด ฝุ่นควัน มลพิษ เชื้อโรคต่างๆ ส่วนสัญญาณที่ไม่ดีจากภายใน อาทิ ความ เครียด ฮอร์โมนสูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งเซลล์ของคนเราจะรับรู้และตอบสนองทั้งสัญญาณที่ดีและไม่ดี โดยไม่มีการสกรีนว่าสิ่งไหนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงได้มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยแนวทาง ปฏิบัติในการจัดตั้งกระบวน การป้องกันบล็อกสัญญาณที่ไม่ดี และบู๊ตสัญญาณที่ดีก่อนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อคงไว้ซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง และผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ผ่านระบบ Cell signaling หรือการสื่อสารของเซลล์ ซึ่งเรียกว่าการรักษาดุลยภาพของเซลล์

ส่วนแนวทางรักษาดุลยภาพของเซลล์ แบ่งเป็นกลุ่ม code blocker หรือเทคนิคในการระงับสัญญาณไม่ดีที่ทำให้เกิดอาการ ผลที่ได้รับคือ ปรับเปลี่ยนการทำงานของเซลล์ที่มากขึ้นให้กลับสู่ภาวะปกติ ปรับรูปร่างหรือหน้าที่ของเซลล์ให้กลับมาสู่ปกติ หยุดการตายของเซลล์ ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่เป็นฝ้า กระ ฯลฯ และกลุ่ม code booster หรือเทคนิคการเสริมสร้างสัญญาณที่ดีให้ไปถึงเซลล์มากขึ้น เพื่อให้ทำงานสู่สภาพปกติ ทำได้โดยเพิ่มการทำหน้าที่หรือปริมาณของแต่ละเนื้อเยื่อ ช่วยให้ระยะเวลาวงจรของเซลล์ต่างๆดีขึ้น ช่วยเรื่องของ metabolism และลด catabolism ของเซลล์ผิวหนัง ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการด่างขาว ริ้วรอยเหี่ยวย่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฯลฯ.
แหล่งข่าว :
โพสต์เมื่อ : 2010-08-18

นวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ รักษาดุลยภาพผิวพรรณดูอ่อนเยาว์

ในฐานะเจ้าของรางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด 2010 ประเภทสถานบริการความงามและผลิตภัณฑ์คุณภาพ จากกระทรวงสาธารณสุข บริษัทแพนราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดสัมมนาภายใต้แนวคิด "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก การสื่อสารของเซลล์ที่ไม่สมบูรณ์ หรือบกพร่อง จะส่งผลให้เกิดอาการและปัญหาต่างๆ ซึ่งแท้จริงแล้วมนุษย์เราไม่ได้ป่วย แต่เป็นเซลล์ต่างหากที่ป่วย" ณ รร.คอนราด เมื่อเร็วๆนี้

ภายในงาน ผศ.นพ. ถนอม บรรณประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้ถึงความเจริญด้านวิทยาการการรักษา โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารของเซลล์ว่า เกิดขึ้นมานานแล้วในต่างประเทศตามแนวคิด สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก มีการติดต่อประสานงานภายใต้การควบคุมของยีน





ต่อเมื่อเซลล์เกิดภาวะไม่ปกติ หรือมีปัจจัยต่างๆมาทำให้การทำงานบกพร่อง ไม่บรรลุประสิทธิผล ทำให้เกิดปัญหาและโรคอื่นๆตามมา ซึ่งอนุมานได้ว่า แท้จริงแล้วเซลล์ป่วย เราไม่ได้ป่วย แนวทางการรักษาในอนาคตอันใกล้จึงเปลี่ยนไป เป็นการมุ่งรักษาลงลึกไปถึงระดับการทำงานของเซลล์ ซึ่งมีข้อดีคือ แก้ที่ต้นเหตุ ไม่มีอันตราย ไม่ส่งผลกระทบหรือรบกวนต่อสรีรวิทยา และรักษาแบบตรงจุด

ด้าน ศาสตราภิชาน ดร.นพ.พิชิต สุวรรณประกร ประธานกรรมการ บมจ.แพนราชเทวี กรุ๊ป กล่าวถึงการนำวิทยาการการสื่อสารของเซลล์มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมการรักษาว่า เซลล์ในร่างกายก็เปรียบเสมือนตัวรับสัญญาณ ซึ่งในภาวะปัจจุบันมีสัญญาณที่ดีและไม่ดีทั้งจากภายนอกและภายใน ที่ส่งผลกระทบและเป็นตัวการทำให้เกิดโรคและอาการที่เกี่ยวกับผิวพรรณต่างๆ สัญญาณที่ไม่ดีจากภายนอก มีอาทิแสงแดด ฝุ่นควัน มลพิษ เชื้อโรคต่างๆ ส่วนสัญญาณที่ไม่ดีจากภายใน อาทิ ความ เครียด ฮอร์โมนสูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งเซลล์ของคนเราจะรับรู้และตอบสนองทั้งสัญญาณที่ดีและไม่ดี โดยไม่มีการสกรีนว่าสิ่งไหนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงได้มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยแนวทาง ปฏิบัติในการจัดตั้งกระบวน การป้องกันบล็อกสัญญาณที่ไม่ดี และบู๊ตสัญญาณที่ดีก่อนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อคงไว้ซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง และผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ผ่านระบบ Cell signaling หรือการสื่อสารของเซลล์ ซึ่งเรียกว่าการรักษาดุลยภาพของเซลล์

ส่วนแนวทางรักษาดุลยภาพของเซลล์ แบ่งเป็นกลุ่ม code blocker หรือเทคนิคในการระงับสัญญาณไม่ดีที่ทำให้เกิดอาการ ผลที่ได้รับคือ ปรับเปลี่ยนการทำงานของเซลล์ที่มากขึ้นให้กลับสู่ภาวะปกติ ปรับรูปร่างหรือหน้าที่ของเซลล์ให้กลับมาสู่ปกติ หยุดการตายของเซลล์ ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่เป็นฝ้า กระ ฯลฯ และกลุ่ม code booster หรือเทคนิคการเสริมสร้างสัญญาณที่ดีให้ไปถึงเซลล์มากขึ้น เพื่อให้ทำงานสู่สภาพปกติ ทำได้โดยเพิ่มการทำหน้าที่หรือปริมาณของแต่ละเนื้อเยื่อ ช่วยให้ระยะเวลาวงจรของเซลล์ต่างๆดีขึ้น ช่วยเรื่องของ metabolism และลด catabolism ของเซลล์ผิวหนัง ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการด่างขาว ริ้วรอยเหี่ยวย่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฯลฯ.
แหล่งข่าว :
โพสต์เมื่อ : 2010-08-18

นวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ รักษาดุลยภาพผิวพรรณดูอ่อนเยาว์

ในฐานะเจ้าของรางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด 2010 ประเภทสถานบริการความงามและผลิตภัณฑ์คุณภาพ จากกระทรวงสาธารณสุข บริษัทแพนราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดสัมมนาภายใต้แนวคิด "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก การสื่อสารของเซลล์ที่ไม่สมบูรณ์ หรือบกพร่อง จะส่งผลให้เกิดอาการและปัญหาต่างๆ ซึ่งแท้จริงแล้วมนุษย์เราไม่ได้ป่วย แต่เป็นเซลล์ต่างหากที่ป่วย" ณ รร.คอนราด เมื่อเร็วๆนี้

ภายในงาน ผศ.นพ. ถนอม บรรณประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้ถึงความเจริญด้านวิทยาการการรักษา โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารของเซลล์ว่า เกิดขึ้นมานานแล้วในต่างประเทศตามแนวคิด สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก มีการติดต่อประสานงานภายใต้การควบคุมของยีน





ต่อเมื่อเซลล์เกิดภาวะไม่ปกติ หรือมีปัจจัยต่างๆมาทำให้การทำงานบกพร่อง ไม่บรรลุประสิทธิผล ทำให้เกิดปัญหาและโรคอื่นๆตามมา ซึ่งอนุมานได้ว่า แท้จริงแล้วเซลล์ป่วย เราไม่ได้ป่วย แนวทางการรักษาในอนาคตอันใกล้จึงเปลี่ยนไป เป็นการมุ่งรักษาลงลึกไปถึงระดับการทำงานของเซลล์ ซึ่งมีข้อดีคือ แก้ที่ต้นเหตุ ไม่มีอันตราย ไม่ส่งผลกระทบหรือรบกวนต่อสรีรวิทยา และรักษาแบบตรงจุด

ด้าน ศาสตราภิชาน ดร.นพ.พิชิต สุวรรณประกร ประธานกรรมการ บมจ.แพนราชเทวี กรุ๊ป กล่าวถึงการนำวิทยาการการสื่อสารของเซลล์มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมการรักษาว่า เซลล์ในร่างกายก็เปรียบเสมือนตัวรับสัญญาณ ซึ่งในภาวะปัจจุบันมีสัญญาณที่ดีและไม่ดีทั้งจากภายนอกและภายใน ที่ส่งผลกระทบและเป็นตัวการทำให้เกิดโรคและอาการที่เกี่ยวกับผิวพรรณต่างๆ สัญญาณที่ไม่ดีจากภายนอก มีอาทิแสงแดด ฝุ่นควัน มลพิษ เชื้อโรคต่างๆ ส่วนสัญญาณที่ไม่ดีจากภายใน อาทิ ความ เครียด ฮอร์โมนสูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งเซลล์ของคนเราจะรับรู้และตอบสนองทั้งสัญญาณที่ดีและไม่ดี โดยไม่มีการสกรีนว่าสิ่งไหนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงได้มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยแนวทาง ปฏิบัติในการจัดตั้งกระบวน การป้องกันบล็อกสัญญาณที่ไม่ดี และบู๊ตสัญญาณที่ดีก่อนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อคงไว้ซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง และผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ผ่านระบบ Cell signaling หรือการสื่อสารของเซลล์ ซึ่งเรียกว่าการรักษาดุลยภาพของเซลล์

ส่วนแนวทางรักษาดุลยภาพของเซลล์ แบ่งเป็นกลุ่ม code blocker หรือเทคนิคในการระงับสัญญาณไม่ดีที่ทำให้เกิดอาการ ผลที่ได้รับคือ ปรับเปลี่ยนการทำงานของเซลล์ที่มากขึ้นให้กลับสู่ภาวะปกติ ปรับรูปร่างหรือหน้าที่ของเซลล์ให้กลับมาสู่ปกติ หยุดการตายของเซลล์ ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่เป็นฝ้า กระ ฯลฯ และกลุ่ม code booster หรือเทคนิคการเสริมสร้างสัญญาณที่ดีให้ไปถึงเซลล์มากขึ้น เพื่อให้ทำงานสู่สภาพปกติ ทำได้โดยเพิ่มการทำหน้าที่หรือปริมาณของแต่ละเนื้อเยื่อ ช่วยให้ระยะเวลาวงจรของเซลล์ต่างๆดีขึ้น ช่วยเรื่องของ metabolism และลด catabolism ของเซลล์ผิวหนัง ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการด่างขาว ริ้วรอยเหี่ยวย่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฯลฯ.
แหล่งข่าว :
โพสต์เมื่อ : 2010-08-18

นวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ รักษาดุลยภาพผิวพรรณดูอ่อนเยาว์

ในฐานะเจ้าของรางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด 2010 ประเภทสถานบริการความงามและผลิตภัณฑ์คุณภาพ จากกระทรวงสาธารณสุข บริษัทแพนราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดสัมมนาภายใต้แนวคิด "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก การสื่อสารของเซลล์ที่ไม่สมบูรณ์ หรือบกพร่อง จะส่งผลให้เกิดอาการและปัญหาต่างๆ ซึ่งแท้จริงแล้วมนุษย์เราไม่ได้ป่วย แต่เป็นเซลล์ต่างหากที่ป่วย" ณ รร.คอนราด เมื่อเร็วๆนี้

ภายในงาน ผศ.นพ. ถนอม บรรณประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้ถึงความเจริญด้านวิทยาการการรักษา โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารของเซลล์ว่า เกิดขึ้นมานานแล้วในต่างประเทศตามแนวคิด สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก มีการติดต่อประสานงานภายใต้การควบคุมของยีน





ต่อเมื่อเซลล์เกิดภาวะไม่ปกติ หรือมีปัจจัยต่างๆมาทำให้การทำงานบกพร่อง ไม่บรรลุประสิทธิผล ทำให้เกิดปัญหาและโรคอื่นๆตามมา ซึ่งอนุมานได้ว่า แท้จริงแล้วเซลล์ป่วย เราไม่ได้ป่วย แนวทางการรักษาในอนาคตอันใกล้จึงเปลี่ยนไป เป็นการมุ่งรักษาลงลึกไปถึงระดับการทำงานของเซลล์ ซึ่งมีข้อดีคือ แก้ที่ต้นเหตุ ไม่มีอันตราย ไม่ส่งผลกระทบหรือรบกวนต่อสรีรวิทยา และรักษาแบบตรงจุด

ด้าน ศาสตราภิชาน ดร.นพ.พิชิต สุวรรณประกร ประธานกรรมการ บมจ.แพนราชเทวี กรุ๊ป กล่าวถึงการนำวิทยาการการสื่อสารของเซลล์มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมการรักษาว่า เซลล์ในร่างกายก็เปรียบเสมือนตัวรับสัญญาณ ซึ่งในภาวะปัจจุบันมีสัญญาณที่ดีและไม่ดีทั้งจากภายนอกและภายใน ที่ส่งผลกระทบและเป็นตัวการทำให้เกิดโรคและอาการที่เกี่ยวกับผิวพรรณต่างๆ สัญญาณที่ไม่ดีจากภายนอก มีอาทิแสงแดด ฝุ่นควัน มลพิษ เชื้อโรคต่างๆ ส่วนสัญญาณที่ไม่ดีจากภายใน อาทิ ความ เครียด ฮอร์โมนสูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งเซลล์ของคนเราจะรับรู้และตอบสนองทั้งสัญญาณที่ดีและไม่ดี โดยไม่มีการสกรีนว่าสิ่งไหนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงได้มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยแนวทาง ปฏิบัติในการจัดตั้งกระบวน การป้องกันบล็อกสัญญาณที่ไม่ดี และบู๊ตสัญญาณที่ดีก่อนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อคงไว้ซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง และผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ผ่านระบบ Cell signaling หรือการสื่อสารของเซลล์ ซึ่งเรียกว่าการรักษาดุลยภาพของเซลล์

ส่วนแนวทางรักษาดุลยภาพของเซลล์ แบ่งเป็นกลุ่ม code blocker หรือเทคนิคในการระงับสัญญาณไม่ดีที่ทำให้เกิดอาการ ผลที่ได้รับคือ ปรับเปลี่ยนการทำงานของเซลล์ที่มากขึ้นให้กลับสู่ภาวะปกติ ปรับรูปร่างหรือหน้าที่ของเซลล์ให้กลับมาสู่ปกติ หยุดการตายของเซลล์ ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่เป็นฝ้า กระ ฯลฯ และกลุ่ม code booster หรือเทคนิคการเสริมสร้างสัญญาณที่ดีให้ไปถึงเซลล์มากขึ้น เพื่อให้ทำงานสู่สภาพปกติ ทำได้โดยเพิ่มการทำหน้าที่หรือปริมาณของแต่ละเนื้อเยื่อ ช่วยให้ระยะเวลาวงจรของเซลล์ต่างๆดีขึ้น ช่วยเรื่องของ metabolism และลด catabolism ของเซลล์ผิวหนัง ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการด่างขาว ริ้วรอยเหี่ยวย่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฯลฯ.
แหล่งข่าว :
โพสต์เมื่อ : 2010-08-18

นวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ รักษาดุลยภาพผิวพรรณดูอ่อนเยาว์

ในฐานะเจ้าของรางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด 2010 ประเภทสถานบริการความงามและผลิตภัณฑ์คุณภาพ จากกระทรวงสาธารณสุข บริษัทแพนราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดสัมมนาภายใต้แนวคิด "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก การสื่อสารของเซลล์ที่ไม่สมบูรณ์ หรือบกพร่อง จะส่งผลให้เกิดอาการและปัญหาต่างๆ ซึ่งแท้จริงแล้วมนุษย์เราไม่ได้ป่วย แต่เป็นเซลล์ต่างหากที่ป่วย" ณ รร.คอนราด เมื่อเร็วๆนี้

ภายในงาน ผศ.นพ. ถนอม บรรณประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้ถึงความเจริญด้านวิทยาการการรักษา โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารของเซลล์ว่า เกิดขึ้นมานานแล้วในต่างประเทศตามแนวคิด สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก มีการติดต่อประสานงานภายใต้การควบคุมของยีน





ต่อเมื่อเซลล์เกิดภาวะไม่ปกติ หรือมีปัจจัยต่างๆมาทำให้การทำงานบกพร่อง ไม่บรรลุประสิทธิผล ทำให้เกิดปัญหาและโรคอื่นๆตามมา ซึ่งอนุมานได้ว่า แท้จริงแล้วเซลล์ป่วย เราไม่ได้ป่วย แนวทางการรักษาในอนาคตอันใกล้จึงเปลี่ยนไป เป็นการมุ่งรักษาลงลึกไปถึงระดับการทำงานของเซลล์ ซึ่งมีข้อดีคือ แก้ที่ต้นเหตุ ไม่มีอันตราย ไม่ส่งผลกระทบหรือรบกวนต่อสรีรวิทยา และรักษาแบบตรงจุด

ด้าน ศาสตราภิชาน ดร.นพ.พิชิต สุวรรณประกร ประธานกรรมการ บมจ.แพนราชเทวี กรุ๊ป กล่าวถึงการนำวิทยาการการสื่อสารของเซลล์มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมการรักษาว่า เซลล์ในร่างกายก็เปรียบเสมือนตัวรับสัญญาณ ซึ่งในภาวะปัจจุบันมีสัญญาณที่ดีและไม่ดีทั้งจากภายนอกและภายใน ที่ส่งผลกระทบและเป็นตัวการทำให้เกิดโรคและอาการที่เกี่ยวกับผิวพรรณต่างๆ สัญญาณที่ไม่ดีจากภายนอก มีอาทิแสงแดด ฝุ่นควัน มลพิษ เชื้อโรคต่างๆ ส่วนสัญญาณที่ไม่ดีจากภายใน อาทิ ความ เครียด ฮอร์โมนสูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งเซลล์ของคนเราจะรับรู้และตอบสนองทั้งสัญญาณที่ดีและไม่ดี โดยไม่มีการสกรีนว่าสิ่งไหนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงได้มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยแนวทาง ปฏิบัติในการจัดตั้งกระบวน การป้องกันบล็อกสัญญาณที่ไม่ดี และบู๊ตสัญญาณที่ดีก่อนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อคงไว้ซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง และผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ผ่านระบบ Cell signaling หรือการสื่อสารของเซลล์ ซึ่งเรียกว่าการรักษาดุลยภาพของเซลล์

ส่วนแนวทางรักษาดุลยภาพของเซลล์ แบ่งเป็นกลุ่ม code blocker หรือเทคนิคในการระงับสัญญาณไม่ดีที่ทำให้เกิดอาการ ผลที่ได้รับคือ ปรับเปลี่ยนการทำงานของเซลล์ที่มากขึ้นให้กลับสู่ภาวะปกติ ปรับรูปร่างหรือหน้าที่ของเซลล์ให้กลับมาสู่ปกติ หยุดการตายของเซลล์ ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่เป็นฝ้า กระ ฯลฯ และกลุ่ม code booster หรือเทคนิคการเสริมสร้างสัญญาณที่ดีให้ไปถึงเซลล์มากขึ้น เพื่อให้ทำงานสู่สภาพปกติ ทำได้โดยเพิ่มการทำหน้าที่หรือปริมาณของแต่ละเนื้อเยื่อ ช่วยให้ระยะเวลาวงจรของเซลล์ต่างๆดีขึ้น ช่วยเรื่องของ metabolism และลด catabolism ของเซลล์ผิวหนัง ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการด่างขาว ริ้วรอยเหี่ยวย่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฯลฯ.
แหล่งข่าว :
โพสต์เมื่อ : 2010-08-18

นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ : ตู้อบแห้งเครื่องมือแพทย์

ใช้เป็นเครื่องอบแห้งเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ก่อนส่งนึ่งอบไอน้ำฆ่าเชื้อโรค
ชื่อสิ่งประดิษฐ์ ตู้อบแห้งเครื่องมือแพทย์

ชื่อผู้ประดิษฐ์/คิดค้น

1.   นายสมเกียรติ  จันต๊ะโพธิ์            หัวหน้าหน่วยซ่อมบำรุง งานบริการสุขภาพชุมชน
ชื่อผู้นำเสนอ
1.   นายสมเกียรติ  จันต๊ะโพธิ์            หัวหน้าหน่วยซ่อมบำรุง งานบริการสุขภาพชุมชน
2.   นางสุภาภรณ์  บัญญัติ                  พยาบาลวิชาชีพ 5 งานสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์
3.   นายไชยา ทับเอี่ยม                        พนักงานจ่ายกลาง โรงพยาบาลบ้านตาก

สถานที่ติดต่อกลับ

                โรงพยาบาลบ้านตาก อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก  โทรศัพท์ 0-5559-1435-6                   โทรสาร 0-5554-8066 มือถือ 0-1888-9011  e-mail address : tingbanyati@yahoo.com

หลักการเหตุผล

                ในการให้บริการผู้ป่วยและผู้มารับบริการของโรงพยาบาล การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลมีความสำคัญมากเพราะการติดเชื้อถือเป็นความเสี่ยงสำคัญของผู้ป่วยและโรงพยาบาลที่ทำให้เกิดอันตราย ภาวะแทรกซ้อนและความสูญเสียทั้งชีวิตและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาจำนวนมาก  เครื่องมืออุปกรณ์ที่เป็นโลหะทางโรงพยาบาลจะใช้การฆ่าเชื้อโดยการนึ่งอบไอน้ำด้วยความดันสูงหลังจากที่ผ่านการล้างจนสะอาดแล้ว  เมื่อล้างเครื่องมือเหล่านี้เสร็จแล้วจะต้องทำให้แห้งก่อนแล้วจึงจะห่อเข้าชุดรักษาแล้วจึงส่งนึ่ง แต่เดิมทางหน่วยจ่ายกลางจะใช้วิธีตากให้แห้งซึ่งจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ขณะตากให้แห้งก็มีการปนเปื้อนฝุ่นผงละออง บางชิ้นที่มีเขี้ยวจะมีไอน้ำอยู่ก็ต้องนำมาเช็ดใหม่  บางชิ้นอยู่ชุดเดียวกันแต่แห้งไม่พร้อมกันก็ต้องรอไม่สามารถจัดชุดได้ ทำให้นึ่งของได้ช้า ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ทำให้ต้องซื้อไว้สำรองในปริมาณมากขึ้น เป็นภาระในการจัดเก็บและเสียงบประมาณเพิ่มขึ้น ด้วยปัญหาเหล่านี้ผู้ประดิษฐ์จึงได้นำอุปกรณ์ที่ชำรุดแล้วนำมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องอบแห้งเครื่องมือที่จะช่วยให้เครื่องมือแห้งเร็ว ตรวจสอบจำนวนได้ง่ายและไม่สัมผัสกับฝุ่นผงละอองขึ้นมาใช้

วัตถุประสงค์

1.       เพื่อเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องนึ่งแห้งเร็ว ไม่ต้องทำงานซ้ำซ้อน
2.       เพื่อเป็นอุปกรณ์ที่สามารถป้องกันการสัมผัสปนเปื้อนฝุ่นละอองแก่เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ล้างสะอาดแล้ว
3.     เพื่อสามารถควบคุมจำนวนของที่ต้องทำให้แห้ง สามารถจัดเป็นชุดได้เลย ลดระยะเวลาในการจัดชุดใหม่และลดการจัดชุดเครื่องมือผิดพลาดและลดการสูญหาย
4.       ลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของการเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แห้งก่อนนำไปนึ่งอบไอน้ำ

วิธีการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์

1.       อุปกรณ์ที่ใช้
1)      ตู้อบฟิล์ม X-ray เก่าที่ชำรุดแล้ว
2)      แมกเนติก  220 V.A.C. (CN.18)  พร้อมโอเวอร์โหลดป้องกันกระแสเกิน
3)      Timer สวิทซ์ 220 V.A.C.
4)      เบรกเกอร์  20 A.  220 V.A.C.
5)      หลอดไฟ Control
6)      สวิทซ์กริ่ง
7)      ตะแกรงสแตนเลส  ช่อง 1” X 1”  กว้าง 40 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร
2.  งบประมาณ   3,000.- บาท

3.  วิธีการทำงาน

1)      เมื่อกดเบรกเกอร์ไฟฟ้าขึ้น  หลอดไฟสีเขียวจะติดแสดงว่าพร้อมที่จะทำงานแล้ว
2)    เมื่อยกเบรกเกอร์แล้วก็กดสวิทซ์ควบคุมการทำงานของแมกเนติก เมื่อแมกเนติกทำงานก็จะทำการจ่ายกระแสไฟฟ้าขดลวดความร้อนทำงาน  หลอดไฟสัญญาณสีแดงจะติดพร้อมกับพัดลมกระจายความร้อนให้ทั่วภายในตู้อบ (พัดลมทำงานหลอดไฟสีเหลืองจะติด)
3)    เมื่อลวดความร้อนพัดลมทำงานตามเวลาที่กำหนด  ควบคุมโดย Timer รีเลย์ประมาณ 15 นาที หรือมากหรือน้อยก็ได้ เพราะ Timer ปรับค่าได้
4)    เมื่อ Timer ทำงานครบเวลาที่ตั้งไว้ Timer ก็จะตัดวงจรทั้งหมด  ถ้าจะให้ทำงานอีกก็กดสวิทซ์ควบคุมอีกครั้งหนึ่งหรือเริ่มจากวิธีการทำงานจากข้อ 2 

การทดสอบประสิทธิภาพสิ่งประดิษฐ์

                หลังจากประดิษฐ์เครื่องอบแห้งเครื่องมือเสร็จแล้วได้นำไปทดลองใช้ที่หน่วยจ่ายกลางโรงพยาบาลบ้านตากเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ พบว่า
1.     ระยะเวลาในการอบแห้งเครื่องมือใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ในขณะที่ถ้าตากให้แห้งเองจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยที่ถ้าตากให้แห้งเองเครื่องมือที่มีเขี้ยวจะมีไอน้ำเกาะจะต้องเช็ดอีกครั้งก่อนจะจัดชุดอุปกรณ์ส่งนึ่ง  การใช้เครื่องอบแห้งจะสามารถกำหนดเวลาทำงานได้ชัดเจน  สามารถตั้งเวลาได้
2.     ปริมาณที่อบได้ประมาณ 200 ชิ้นต่อครั้งต่อ 15 นาที โดยสามารถจัดเป็นชุดได้ตั้งแต่อบแห้งเลย ทำให้เกิดความรวดเร็ว ทำงานรอบเดียว  ตรวจสอบจำนวนอุปกรณ์ได้และลดความผิดพลาดในการจัดชุดเครื่องมือ
3.       ระยะเวลาในการนึ่งประมาณ 15 นาทีใช้กระแสไฟฟ้าไม่มาก
ประโยชน์และการนำไปใช้
                ใช้เป็นเครื่องอบแห้งเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ก่อนส่งนึ่งอบไอน้ำฆ่าเชื้อโรค

เอกสารอ้างอิง

1.       ประสิทธิ์  พิทยพัฒน์. การออกแบบระบบไฟฟ้า Electrical System Design. พิมพ์ครั้งที่ 2.กรุงเทพฯ: ทีซีจี พริ้นติ้ง,2545.
2.     ลือชัย  ทองนิล. การออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าตามมาตรฐานของการไฟฟ้า. พิมพ์ครั้งที่ 11(ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพฯ : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี(ไทย-ญี่ปุ่น),2547.
3.       ไวพจน์  ศรีธัญ. การติดตั้งไฟฟ้า1. กรุงเทพฯ : ศูนย์ส่งเสริมอาชีวะ,2545.
4.       ศุลี  บรรจงจิตร. หลักการและเทคนิคการออกแบบระบบไฟฟ้า. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น,2547.
ศุลี  บรรจงจิตร. อุปกรณ์และการติดตั้งในระบบไฟฟ้า. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น,2547

นวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่

นวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ มนุษย์เตี้ยเฮ! ผ่าตัดยืดร่างสูงสง่าเสริมราศี

นวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ มนุษย์เตี้ยเฮ! ผ่าตัดยืดร่างสูงสง่าเสริมราศี


นวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ มนุษย์เตี้ยเฮ! ผ่าตัดยืดร่างสูงสง่าเสริมราศี
นวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ล่าสุด ด้วยฝีไม้ลายมือของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของไทย ได้สร้างผลงานก้าวล้ำนำสมัย และเป็นแห่งแรกของเมืองไทย ชนิดวงการแพทย์ต้องตื่นตะลึง!

เมื่อมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคกระดูกและข้อ ได้คิดค้นวิทยาการที่ก้าวล้ำนำสมัย ผ่าตัดเพิ่มความสูงให้กับคนที่ไม่พอใจในสภาพร่างกายตนเอง ที่เกิดมาดูต้อยต่ำ เกิดมาเตี้ยกว่าปกติ แต่ต้องการเพิ่มความสูง เพื่อเพิ่มสง่าราศี หรือโหงวเฮ้งให้กับตัวเอง

นายแพทย์ที่มีความสามารถท่านนี้คือ นพ.พรเอนก ตาดทอง ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ โรงพยาบาลเวชธานี ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ ด้วยการผ่าตัดเพิ่มความสูงและเป็นแห่งแรกของเมืองไทย อีกด้วย โดยได้กล่าวถึงวิทยาการที่ก้าวล้ำนี้ว่า ในปัจจุบันทั่วโลกได้เริ่มคิดค้นวิธีผ่าตัดเพิ่มความสูงกันมาตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ด้วยการ ใช้เทคนิควิธีการยืดกระดูกของศัลยแพทย์ชาวรัสเซีย ที่ค้นพบว่า เมื่อกระดูกถูกแยกจากกันอย่างถูกวิธี ร่างกายจะสามารถสร้างกระดูกใหม่ขึ้นตรงบริเวณช่องว่างได้ สำหรับกระดูกที่เกิดขึ้นใหม่นี้ จะเหมือนกับกระดูกของคนทุกประการอีกด้วย

ทั้งนี้โรงพยาบาลเวชธานี ได้มีการผ่าตัดเพิ่มความสูงมานานเกือบ 10 ปีแล้ว
สำหรับผู้ที่มาเพิ่มความสูงจะมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน โดยประเภทที่ 1. กลุ่มที่ไม่พอใจความสูงของตนเอง จนคิดว่าเป็นปมด้อย 2. กลุ่มที่ต้องการเพิ่มความสูง เพื่อไปใช้ในการทำงานหรือการศึกษา 3. กลุ่มนักกีฬา และ 4. กลุ่มต้องการเพิ่มความงามให้กับสรีระของตัวเอง

โดยหลักการผ่าตัดเพิ่มความสูงนั้น แพทย์จะต้องเข้าใจถึงสัดส่วนของร่างกายมนุษย์ และจะต้องสัมพันธ์กับสัดส่วนของผู้ที่ต้องการเพิ่มความสูงด้วย อีกทั้งต้องใช้เวลาที่จะใส่ เครื่องยึดตรึงกระดูก (ILIZAROV) หรือ อิลิซารอฟ ตรึงอยู่ที่ขา เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ต่อความยาวกระดูก 1 เซนติเมตร

ทั้งนี้เครื่องหรืออุปกรณ์ที่ว่านี้สามารถรองรับน้ำหนักตัวได้และมีความคงทนแข็งแรง ทำให้คนไข้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกด้วย

สำหรับการผ่าตัดเสริมความงามให้กับเรือนร่างให้สูงขึ้นนั้น ตามทฤษฎีทางการแพทย์ระบุว่า ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความยาวและที่ผ่านมาสามารถผ่าตัดยืดความสูงได้มากถึง 30 เซนติเมตร สำหรับผู้ป่วยมีปัญหากระดูกติดเชื้อจนต้องตัดกระดูกออกไป ส่วนกรณีเพิ่มความสูงให้กับผู้ป่วยตามปกตินั้น การผ่าตัดเพิ่มความสูงมากสุดอยู่ที่ 5.5 เซนติเมตร และไม่มีข้อจำกัดในเรื่องอายุของผู้ป่วยอีกด้วย โดยผู้ป่วยที่เคยเข้ารับการรักษาอายุ 46 ปี แต่แพทย์จะปฏิเสธการรักษากับผู้ป่วย ที่ร่างกายยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ คือต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป

สาเหตุเนื่องจากกระดูกยังสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้เอง ยกเว้นแต่ผู้มีความจำเป็นเร่งด่วน ส่วนในกรณีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษา ที่มีการกำหนดความสูงขั้นต่ำไว้

โดยขั้นตอนการรักษานั้น แพทย์จะเริ่มจากการพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย ถึงข้อจำกัดในเรื่องอายุและขั้นตอนต่าง ๆ ในการผ่าตัดที่ไม่ง่ายเหมือนกับการผ่าตัดเสริมหน้าอกหรือทำจมูก ที่สามารถผ่าตัดเสร็จสิ้นในวันเดียว ผู้ป่วยจึงต้องใช้เวลาและความอดทน ดังนั้นผู้รับการรักษาต้องมีความมุ่งมั่นอย่างจริงจัง เพราะการใช้ชีวิตประจำวันจะต้องลำบากมากขึ้น

ส่วนในเรื่องราคาค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด อยู่ที่ราคา 100,000 บาท ต่อความสูง 1 เซนติเมตร และหากต้องการสูงเพิ่ม 5 เซนติเมตร จะอยู่ที่ราคา 5 แสนบาท แต่หากต้องการความสูงเกิน 5 เซนติเมตร จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 8 แสนบาทตามลำดับ

ขณะที่ผู้ที่ต้องการผ่าตัดเพิ่มความสูง 5 เซนติเมตร จะต้องใช้เวลาประมาณ 5 เดือน แบ่งเป็นการสร้างกระดูก 5 เซนติเมตร ต้องใช้เวลา 50 วัน ส่วนเวลาที่เหลือเป็นช่วงที่กระดูกสร้างแคลเซียม เพื่อความแข็งแรง พร้อมกับต้องทำกายภาพบำบัดควบคู่กันไปด้วย อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ใส่เครื่องยึดกระดูก ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

คราวนี้เห็นทีผู้ที่เกิดมารูปร่างเล็ก คงไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจกันแล้ว เพราะในอนาคตนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ ด้วยการผ่าตัดเพิ่มความสูง สามารถผ่าตัดให้มีร่างกายดูสูงสง่า มีราศีกันแล้ว และอาจทำให้คำว่า “เตี้ย”....? คงจะไม่ได้ยินหรือได้ฟังกันอีกแล้ว หรืออาจได้ยินกันน้อยลง หรือไม่แน่อาจสูญพันธุ์ไปเลยก็ว่าได้.

สุดารัตน์ งามพิรุณตระกูล ข้อมูล

นวัตกรรมทางการแพทย์

 
หุ่นยนต์เตรียมหลอดเลือดอัตโนมัติ
แถลงข่าวหุ่นยนต์จัดเตรียมหลอดเลือดอัตโนมัติ เครื่องแรกของประเทศไทย ในรพ.จุฬาฯ Rabelon (ราเบรอน1) เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2553 ศาสตราจารย์นายแพทย์อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นประธานและผู้บริหารแถลงข่าว "หุ่นยนต์จัดเตรียมหลอดเลือดอัตโนมัติ เครื่องแรกของประเทศไทย ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ณ อาคาร ภปร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย หุ่นยนต์ราเบรอน 1 จะใช้รองรับในการเจาะเลือดโดยตรง ทำให้การบริการทางการแพทย์คล่องตัวมากยิ่งขึ้น จากปกติการเจาะเลือดจากเจ้าหน้าที่จะใช้เวลา 60 นาที แต่ ราเบรอน 1 สามารถเจาะเลือดได้เร็วกว่า 20 นาที ที่สำคัญสามารถเจาะเลือด จำนวน 1440 หลอด ได้ภายใน 1 ชั่วโมง 1.กระบวนการทำงานก็จะเริ่มจากการรับข้อมูลคำสั่งจากแพทย์ของคนไข้ แล้วเชื่อมต่อกับระบบสารสนเทศ และห้องปฏิบัติการ 2. ทำการประมวลผล เพื่อคัดกรองชนิดเลือด 3.จัดลำดับผู้ป่วยแต่ละราย และติดฉลากบาร์โค๊ดไว้ให้ล่วงหน้าโดยอัตโนมัติ 4.พร้อมทั้งจัดส่งหลอดเลือดที่ติดฉลากแล้วไปตามระบบสายพานที่โต๊ะเจาะเลือดใดก็ได้ทันที หุ่นยนต์ เบรารอน 1 จะให้บริการอยู่ที่ห้องปฏิบัติการกลางของโรงพยาบาล ณ อาคาร ภปร ชั้น 4 คุณสมบัติพิเศษคือ ยังมีหน้าจอสำหรับแสดงข้องมูลของผู้ป่วย ทำให้ข้อมูลในการเจาะเลือดกับประวัติผู้ป่วยแม่นยำขึ้น ถือว่าเป็นนวัตกรรมตัวแรกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้มารับบริการในโรงพยาบาลอย่าง แท้จริง
 

นวัตกรรมทางการแพทย์

3G e-Book นวัตกรรมห้องสมุดลดโลกร้อน

3G e-Book นวัตกรรมห้องสมุดลดโลกร้อน
 

..........           3G e-Book คือนวัตกรรมใหม่ที่เหมือนการรวมเอาห้องสมุดเข้ามาอยู่ในอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว ตัวอุปกรณ์มีเพียงเครื่องพร้อมหน้าจอที่ภายในใส่ชิพเซ็ต 3G ฝังอยู่ การทำงานของมันเพียงแค่ผู้ใช้เข้าไปในเว็บไซต์ที่ขายหนังสือเช่น www.amazon.com หรือ www.barnesandnoble.com/(Barns and Noble) แล้วสั่งซื้อหนังสือ หนังสือที่ต้องการจะถูกดาวน์โหลดลงมาอยู่ภายในตัวอุปกรณ์ทันที ผู้ใช้สามารถอ่านหนังสือได้ตลอดเวลาที่ต้องการ และสามารถจุหนังสือได้ในปริมาณหลายร้อยเล่ม โดยไม่จำเป็นต้องตัดต้นไม้มาทำกระดาษเป็นการช่วยฺลดภาวะโลกร้อน ปัจจุบันมีกระทรวงศึกษาธิการในหลายประเทศ วางโครงการที่จะใช้e-Book เป็นอุปกรณ์เสริมในการศึกษาให้กับเยาวชนในประเทศ สำหรับประเทศไทยที่ไม่มีระบบ 3G ก็ประยุกต์ใช้งานด้วยการต่อสายเคเบิลเข้าสู่อุปกรณ์ แล้วจึงเชื่อมต่อลงคอมพิวเตอร์ แต่ถ้ามีระบบ 3G เกิดขึ้น ผู้ใช้ก็สามารถลดขั้นตอนที่ยุ่งยากลงได้และลดการลงทุนซ้ำซ้อน อีกทั้งตัวอุปกรณ์นี้ยังสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่วิกิพีเดีย เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมทำบรรณานุกรมและหนังสืออ้างอิงได้ ปัจจุบันมีผู้พัฒนาอุปกรณ์  e-Book มากกว่า10 ราย มีทั้งแบบที่ใช้เทคโนโลยี CDMA 2000 และ HSPA--จบ--
          ที่มา: หนังสือพิมพ์เทลคอม เจอร์นัล ฉบับวันที่ 16 - 22 พ.ย. 2552--

นวัตกรรมห้องสมุดในยุคมิลเลนเนียม : การจัดการเพื่อเพิ่มมูลค่า

โลกยุคปัจจุบัน ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของ ICT  ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ต่างๆ มีจำหน่ายในราคาถูกลง ง่ายต่อการเป็นเจ้าของ บวกกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่กว้างขวางและมีความเร็วสูง ฯลฯ ส่งผลให้สารสนเทศ และความรู้ในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีทำให้มีการสร้าง จัดเก็บ ค้นคืน เผยแพร่ และเข้าถึงสารสนเทศ ความรู้ได้สะดวกและรวดเร็ว
จากความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบตัวในแต่ละวินาที กลายเป็นความท้าทายของห้องสมุดและบรรณารักษ์ในการปรับตัวให้ทันยุคทันเหตุการณ์ สามารถนำ ICT ที่เหมาะสมมาจัดการความรู้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ได้เปรียบเทียบให้เห็นถึงห้องสมุดในยุคปัจจุบันกับห้องสมุดในยุคมิลเลเนียมว่า
ห้องสมุดโลก = Internet
บรรณารักษ์ = Google
ชั้นหนังสือ = Web 2.0
ห้องสมุดเพลง = iPod
ทุกที่ ทุกเวลา = 24x7x365
การนำ ICT ที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในงานห้องสมุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการความรู้ด้านบริหาร จัดการ และการบริการ จะช่วยสร้างคุณค่าแก่ห้องสมุด ไม่ว่าจะเป็น…
- การถ่ายโอน แปลง และสงวนรักษาข้อมูล สารสนเทศ และความรู้ที่มากด้วยคุณค่าจากบรรพบุรุษสู่คนรุ่นหลัง อย่างสมบูรณ์ผ่านรูปแบบดิจิทัล
- ผู้ใช้บริการสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นทั้งในและนอกห้องสมุด ทำให้ประหยัดบุคลากรในส่วนบริการ เพื่อไปดูแลงานส่วนอื่นๆ ที่จะเอื้อประโยชน์ผู้ใช้ให้มากขึ้นจากเดิม
- ความรู้ในรูปแบบดิจิทัลทำให้ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้น เข้าถึงได้สะดวกและรวดเร็ว จากทุกที่ ทุกเวลา ตราบเท่าที่ต้องการ
- เว็บไซต์ของห้องสมุดช่วยสร้างบรรยากาศให้เยี่ยมและใช้ห้องสมุด
- การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้และผู้ให้บริการเพิ่มมากขึ้น สะดวก รวดเร็ว โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารแบบเสมือน
- การมีส่วนร่วมของผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น จากเทคโนโลยี Web 2.0
- สร้างเครือข่ายของห้องสมุดเพื่อช่วยเหลือและแบ่งปันกัน
- ระบบการค้นหาหนังสือที่แม่นยำ และมีการจอง ยืม คืน ที่ดีและมีประสิทธิภาพ
สรุปสั้นๆ ได้ว่า ICT ช่วยสร้างคุณค่า โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ลดต้นทุน เสริมการใช้บริการ
การก้าวไปสู่ห้องสมุดในศตวรรษที่ 21ได้นั้นสิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวให้พร้อม ซึ่งดร.รอม หิรัญพฤษ์  มีข้อเสนอแนะว่า
- ประเมินประสบการณ์ที่ผู้ใช้ได้จากห้องสมุด เพื่อรับทราบความคิดเห็น และความต้องการ สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ
- ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไม่กลัว
- สร้างเอกลักษณ์ของห้องสมุดเราให้ได้
- ทดลองจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อดูกิจกรรมที่เหมาะสมในอนาคตของห้องสมุด
อย่ากลัวว่าเทคโนโลยีจะมาแทนที่ และเพิ่มภาระงานที่มีอยู่ แต่มันจะมาช่วยเสริมสร้างงานต่างๆ ของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ห้องสมุดยังมีพลังและความจำเป็นที่ต้องคงอยู่ ดังนั้นห้องสมุดจึงต้องแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและจำเป็นนั้นทั้งต่อองค์กรที่สนับสนุน รวมถึงสังคม ให้มากและเร็วที่สุด ไม่ว่าการเป็นศูนย์กลางขององค์กร การเป็นที่พึ่งทางเทคโนโลยีของชุมชน โดเฉพาะการตอบคำถามที่ว่า
“Why do we need the Library when everthing is on the Internet?”
สำหรับห้องสมุด STKS ก็ได้นำ ICT มาประยุกต์ใช้ในการบริหาร จัดการ และการบริการ ตัวอย่างงานที่เราทำเช่น
-NSTDA Online Library ระบบห้องสมุดอัตโนมัติที่พัฒนาด้วย OSS คือ Koha เพื่อให้การสืบค้นเข้าถึงสารสนเทศในห้องสมุด ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ครบถ้วน แม่นยำ โดยเฉพาะการแบ่งปันทรัพยากรในห้องสมุด ที่ http://stks.or.th/library
-เพิ่มช่องทางเพื่อการมีส่วนร่วมของผู้ใช้บริการผ่านเทคโนโลยี Web 2.0 ไม่ว่าจะเป็น
การร่วม Review หนังสือแนะนำประจำเดือนผ่านเว็บ http://stks.or.th
ร่วมแลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ใน http://stks.or.th/blog และ http://stks.or.th/wiki/doku
เพิ่มมูลค่าของข้อมูล และสารสนเทศด้วยการจัดทำสารสนเทศวิเคราะห์ เช่น แผนที่สิทธิบัตร
และอื่นๆ ที่ http://stks.or.th
“The Library Welcomes The Future”
: ข้อมูลสรุปจากการเข้าร่วมสัมมนาวิชาการ ประจำปี 2551 เรื่อง นวัตกรรมห้องสมุดในยุคมิลเลเนียม : การจัดการเพื่อเพิ่มมูลค่า วันที่ 27-28 ส.ค. 2551 ณ ชั้น 3 หอประชุมศาสตราจารย์ สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

หนังสือน่าอ่านสำหรับปีใหม่ - เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ฉบับคัดสรร

ชื่อหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ฉบับคัดสรร
ชื่อผู้แต่ง ดังตฤณ
เป็นหนังสือที่รวมคำถาม คำตอบ จากหนังสือเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว โดยคัดสรร คำถามที่เด่นๆที่ผู้คนส่วนใหญ่มีความสงสัยลังเล เช่น ทำทานมาเยอะแล้ว เป็นปีๆเลยนะ แต่ทำไมไม่เห็นรวยซะทีครับ?แสวงหาคนจริงใจแต่ไม่เคยเจอ ต้องทำบุญอย่างไรถึงจะได้เจอคนจริงใจ? โดยผู้เขียนได้เขียนอธิบายเปรียบเปรยได้เห็นภาพชัดเจน ทำให้เข้าใจเรื่องกรรมวิบากได้ดียิ่งขึ้น

หนังสือน่าอ่านสำหรับปีใหม่ -โมงยามแห่งความสุข

ชื่อหนังสือ โมงยามแห่งความสุข
ชื่อผู้แต่ง ว.วชิรเมธี
หนังสือเล่มนี้มีแนวคิดที่สามารถนำไปใช้ในการคลี่คลายความทุกข์ เติมเต็มความสุข ทำให้โลกสดใสและทำให้ใจชื่นบาน ซึ่งเหมาะกับปีใหม่นี้

หนังสือน่าอ่านสำหรับปีใหม่ -ทำดี 24 ชั่วโมง


ชื่อหนังสือ ทำดี 24 ชั่วโมง
ชื่อผู้แต่ง ณัฐพบธรรม
อ่าน 24 บทในหนังสือเล่มนี้แล้วจะเข้าใจเรื่องบุญ และวิธีการทำบุญอย่างถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับการทำบุญเช่น การอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ทำบุญกับใครได้บุญสูงสุด การทำสังฆทานอย่างถูกวิธี สิ่งของในการทำบุญเพื่อผลดีงามอย่างสูงสุด

หนังสือน่าอ่านสำหรับปีใหม่ -ความสุข: คู่มือพัฒนาทักษะชีวิตที่สำคัญที่สุด



ชื่อหนังสือ ความสุข: คู่มือพัฒนาทักษะชีวิตที่สำคัญที่สุด (Happiness: A Guide to Developing Life Most
Important Skill)
ชื่อผู้แต่ง มาติเยอ ริการ์ เขียน สดใส ขันติวรพงศ์ แปล
อยากแนะนำหนังสือดีๆๆ อีกเล่มหนึ่งให้เพื่อนได้อ่าน อยากให้เพื่อนได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ความสุขคืออะไรหมายถึงอะไร เหตุการณ์ใดที่เราจะอุปมาได้ว่า นั่นคือความสุข แล้วจะหามันมาอยู่กับเราได้อย่างไรแล้วเราจะต้องปฏิบัติหรือลงมืออย่างไรบ้างที่จะทำให้ความสุขอยู่กับเราตลอดไป

หนังสือน่าอ่านสำหรับปีใหม่ -ถามจากสมองตอบจากหัวใจ



ชื่อหนังสือ ถามจากสมองตอบจากหัวใจ
ชื่อผู้แต่ง ท่าน ว.วชิรเมธี
เวลาเราทุกข์ มีปัญหา เรามักจะเศร้า ไม่ค่อยมีอารมณ์จะทำอะไร หนังสือเล่มนี้มีแนวทางปฏิบัติต่อปัญหาในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรัก เพื่อน ครอบครัว หรือปัญหาใดๆก็ตาม ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่า ปัญหามันเป็นแค่เรื่องนิดเดียว มองมันเป็นครู ให้เราได้เรียนรู้มัน ถ้าพบปัญหาอีกที ก็ไม่เป็นไร เราขอบคุณมัน ที่มันทำให้เราโตขึ้น
.